-
Pocket Option Mobile App
คำอธิบาย: แอปอย่างเป็นทางการของ Pocket Option รองรับ Android และ iOS ช่วยให้เทรดด้วยตนเองและควบคุมบอทเทรด AI ภายในระบบได้
ฟีเจอร์:- เปิดและปิดบอทเทรด AI
- ปรับขนาดเดิมพันและเวลาหมดอายุ
- ติดตามยอดเงินและประวัติการเทรด
ข้อดี: อินเทอร์เฟซเข้าใจง่ายและเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบ
ข้อเสีย: จำกัดการใช้งานกับบอทจากภายนอก
-
MT2Trading Mobile
คำอธิบาย: แอปเวอร์ชันมือถือของ MT2Trading สำหรับจัดการบอทที่เชื่อมต่อกับ MetaTrader 4/5
ฟีเจอร์:- เริ่มและหยุดบอท
- ตั้งกลยุทธ์และระดับความเสี่ยง
- รับการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์
ข้อดี: รองรับกลยุทธ์ซับซ้อนและเชื่อมต่อกับ MetaTrader ได้
ข้อเสีย: ต้องสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน และซับซ้อนสำหรับมือใหม่
-
Autobot Signal Mobile
คำอธิบาย: แอปสำหรับจัดการ Autobot Signal ที่ทำงานร่วมกับ TradingView และ MetaTrader
ฟีเจอร์:- ตั้งค่าสัญญาณและกลยุทธ์การเทรด
- ตรวจสอบประสิทธิภาพของบอท
- ควบคุมความเสี่ยงและขนาดการเดิมพัน
ข้อดี: ยืดหยุ่นและรองรับหลายแพลตฟอร์ม
ข้อเสีย: มีค่าใช้จ่าย แผนราคาหลากหลาย
-
2Bot Mobile
คำอธิบาย: เวอร์ชันมือถือของ 2Bot ฟรี ใช้งานผ่านเว็บหรือเป็นแอป PWA (Progressive Web App)
ฟีเจอร์:- เลือกโหมดการเทรด (สัญญาณหรือกลยุทธ์)
- กำหนดสินทรัพย์และเวลาหมดอายุ
- ติดตามธุรกรรมและยอดเงิน
ข้อดี: ใช้งานฟรีและง่าย
ข้อเสีย: มีฟีเจอร์น้อยกว่าทางเลือกแบบชำระเงิน
-
บอท Telegram
คำอธิบาย: จัดการบอทผ่าน Telegram ซึ่งรองรับโดยหลายโซลูชันการเทรด
ฟีเจอร์:- แจ้งเตือนการซื้อขาย
- คำสั่งเปิด/ปิดบอท หรือเปลี่ยนกลยุทธ์
- ติดตามยอดเงินและ drawdown
ข้อดี: เข้าถึงได้ทุกอุปกรณ์ ใช้งานสะดวก
ข้อเสีย: ต้องตั้งค่าล่วงหน้า อาจซับซ้อนสำหรับมือใหม่
ในปี 2025 การซื้อขายผ่านมือถือได้กลายเป็นส่วนสำคัญของการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Pocket Option ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถจัดการการซื้อขายและบอทได้โดยตรงจากอุปกรณ์มือถือของพวกเขา บทความนี้ให้ภาพรวมของแอปมือถือ 5 อันดับแรกสำหรับการจัดการบอทการซื้อขาย การตั้งค่าทริกเกอร์ตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ และการใช้บอทในโหมดออฟไลน์ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์มีความยืดหยุ่น ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว และซื้อขายโดยไม่ต้องผูกติดกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
การเทรดผ่านมือถือ

5 แอปชั้นนำสำหรับจัดการบอทบนมือถือ
ในปี 2025 แอปมือถือสำหรับจัดการบอทเทรดได้กลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญสำหรับนักเทรดบนแพลตฟอร์ม Pocket Option ด้านล่างนี้คือ 5 แอปยอดนิยมที่ใช้งานง่ายและปลอดภัยสำหรับการควบคุมบอท:
คำแนะนำ: สำหรับผู้เริ่มต้น ควรใช้แอป Pocket Option เพราะใช้งานง่ายและมีบอท AI ในตัว ผู้เทรดมืออาชีพอาจเลือกใช้ MT2Trading หรือ Autobot Signal เพื่อกลยุทธ์ขั้นสูง ส่วน Telegram เหมาะสำหรับการแจ้งเตือนและควบคุมอย่างรวดเร็ว

ตั้งค่าทริกเกอร์ตามตำแหน่ง (การเทรดตามกำหนด)
ทริกเกอร์ตามตำแหน่งช่วยให้บอทเปิดหรือปิดอัตโนมัติตามตำแหน่งของผู้เทรด ปี 2025 คุณสมบัตินี้มีประโยชน์มากโดยเฉพาะกับผู้ที่เดินทางหรือเทรดเฉพาะในบางสถานที่
วิธีการทำงาน
ใช้แอปอย่าง IFTTT หรือ Zapier เพื่อกำหนดกฎการทำงานของบอทตามโซน เช่น “บ้าน” หรือ “ออฟฟิศ”
ตัวอย่าง: บอทเริ่มทำงานเมื่อผู้ใช้เข้าบ้าน และหยุดเมื่อออกจากโซนนั้น
กรณีใช้งาน
ผู้เทรดตั้ง IFTTT ให้เปิดบอทเมื่อเข้าสู่โซน “บ้าน” และปิดอัตโนมัติเมื่อออก เพื่อความปลอดภัยและควบคุมการเทรดในสภาพแวดล้อมที่ไว้ใจได้
คำแนะนำ: ใช้ทริกเกอร์ตามตำแหน่งเพื่อช่วยให้การเทรดอัตโนมัติในที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยง และสอดคล้องกับตารางชีวิตของคุณ

การทำงานออฟไลน์: โหมดออฟไลน์และเซิร์ฟเวอร์ภายใน
การเทรดออฟไลน์ช่วยให้บอททำงานแม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในพื้นที่ที่การเชื่อมต่อไม่เสถียร ปี 2025 บอทส่วนใหญ่รองรับโหมดออฟไลน์และการทำงานผ่านเซิร์ฟเวอร์ภายใน
โหมดออฟไลน์
บอทโอเพนซอร์สจาก GitHub บางตัวสามารถทำงานแบบ local ได้
ระบบจะโหลดข้อมูลตลาดล่วงหน้าและดำเนินการเทรดแม้อินเทอร์เน็ตขาดหาย
เซิร์ฟเวอร์ภายใน (VPS)
การใช้ VPS ช่วยให้บอททำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใช้เครื่องส่วนตัว
VPS สามารถตั้งค่าให้รีสตาร์ทบอทอัตโนมัติเมื่อเกิดปัญหา ช่วยให้เสถียรยิ่งขึ้น
กรณีใช้งาน
ผู้เทรดติดตั้งบอทบน VPS ซึ่งสามารถเทรดได้ตลอดเวลาแม้เครื่องหลักจะปิดอยู่
เคล็ดลับ: ใช้ VPS เพื่อให้เทรดได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดที่ผันผวน เช่น คริปโต ผู้เริ่มต้นสามารถเช่า VPS ได้ในราคา 5–10 ดอลลาร์ต่อเดือน
คำแนะนำ
- หากต้องการความเรียบง่าย ให้ใช้แอป Pocket Option พร้อมบอท AI ในตัว
- ตั้งค่าบอท Telegram สำหรับการแจ้งเตือนและควบคุมทางมือถือ
- ใช้ VPS เพื่อให้บอททำงานอัตโนมัติ 24/7
ด้วยโซลูชันเหล่านี้ คุณสามารถเชื่อมต่อกับตลาดและควบคุมการเทรดได้ทุกที่ทุกเวลา